วิตามินซี (Vitamin C) คือหนึ่งในอาหารเสริมที่ทุกคนรู้จักกันดี และคงจะทราบดีว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายของคนเราอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องของการเพิ่มภูมิต้านทานและป้องกันไข้หวัด และแน่นอนว่าประโยชน์ที่เป็นที่ชื่นชอบของสาวๆ เลยก็คือ ช่วยเพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิวพรรณ
แต่หลายคนเองก็ยังไม่รู้จักวิตามินตัวนี้ดีพอเพราะถ้าพูดถึงทางการแพทย์ การทานวิตามินซี ให้ได้ประโยชน์สูงสุดนั้น ขึ้นอยู่กับว่าใครมีปัญหาสุขภาพด้านใด และแต่ละปัญหานั้นจะทานในปริมาณเดียวกันและรูปแบบเดียวกันไม่ได้ ดังนั้นเรามาเรียนรู้วิธีทานให้ถูกต้องและเหมาะกับร่างกายของแต่ละคนกันดีกว่า
เคล็ดลับดีๆ สำหรับคุณ
ปริมาณวิตามินซี ที่ร่างกายควรได้รับ
ถ้ายึดหลักศาสตร์การชะลอวัย คนเราจะต้องได้รับวิตามินซีวันละ 1,000 มิลกรัม ซึ่งปริมาณนี้จะช่วยเรื่องของภูมิต้านทานและผิวพรรณที่กระจ่างใด แต่สำหรับผู้ที่เป็นไข้หวัดหรือภูมิแพ้จะต้อง ทานวิตามินซี 2,000 มิลลิกรัมขึ้นไปต่อวัน ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคน ถ้าหากต้องการรู้ปริมาณวิตามินซีที่แน่ชัดว่าร่างกายของคุณนั้นจะต้องได้รับเท่าไหร่ถึงจะดีที่สุด จะต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทาน
วิตามินซี มีกี่ชนิด
Vitamin C แบบอัดเม็ด
วิตามิตซีแบบอัดเม็ด ส่วนมากจะมีปริมาณตั้งแต่ 25 – 1,000 มิลลิกรัม แต่ส่วนใหญ่จะมีให้เลือกอยู่ 2 ขนาดก็คือ 500 กับ 1,000 มิลลิกรัม โดยการทำงานของวิตามินซีในรูปแบบนี้จะค่อยๆ ละลาย ทำให้ออกฤทธิ์ได้นาน ถ้าเป็นไปได้ให้สังเกตที่ฉลากดูควรเป็นแบบ Buffered, Sustained Release หรือ Slow Release ซึ่งเป็นรูปแบบที่ไม่ระคายเคืองกระเพาะอาหาร เพียงแต่ระดับวิตามินซีในกระแสเลือดนั้นจะแตกต่างจากแบบเม็ดทั่วไปที่จะปล่อยสารอาหารแบบทันที
วิตามินซีแบบอม
จะมีให้เลือกตั้งแต่ 25 – 500 มิลลิกรัม เหมาะสำหรับเด็กและผู้ที่ไม่ชอบการกลืนเป็นเม็ด แต่อย่าลืมว่าการใช้ วิตามินซีแบบอม บ่อยๆ กรดในเม็ดยานี้จะทำให้เคลือบฟันบางจนฟันกร่อนได้
วิตามิน C แบบเม็ดเคี้ยว
ส่วนมากจะมีขนาด 30 มิลลิกรัม ซึ่งเหมาะสำหรับเด็ก ด้วยมีรสหวานชวนทาน แต่เรื่องที่ควรระวังก็คือ ส่วนผสมของน้ำตาลที่มีปริมาณสูง เป็นตัวอันตรายที่จะทำให้เด็กมีอาการฟันผุได้ หากทานเป็นประจำ
วิตามินซีเม็ดฟู่
มีอยู่ 2 ขนาดให้เลือกก็คือ 500 กับ 1,000 มิลลิกรัม วิธีทายวิตามินซีเม็ดฟู่ ที่ถูกต้องก็คือการละลายในน้ำ เมื่อหย่อนลงไปในน้ำจะเกิดฟอง รอให้เม็ดฟู่ละลายจนหมดจึงสามารถดื่มได้ ฟองฟู่นี้เกิดจากแก๊สเมื่อรับประทายเข้าไปจะเกิดอาการแน่นท้องในภายหลัง ดังนั้นวิตามินซีชนิดนี้จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่สามารถกลืน วิตามินซีแบบเม็ด ที่มีขนาดใหญ่ แต่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่มักจะมีปัญหาเรื่องของการดูดซึม
วิตามินซีแบบแคปซูล
แบบแคปซูลที่ว่านี้จะมีทั้งแคปซูลแข็งและแคปซูลนิ่ม ส่วนมากจะมีขนาด 500 มิลลิกรัม ดังนั้นจึงต้องทานครั้งละ 2 เม็ดขึ้นไป วัคซีนชนิดนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่สามารถกินแบบเม็ดใหญ่ได้ เพราะกลืนง่าย
VitaminC แบบฉีด
เป็นแบบสารละลาย ขนาดจะอยู่ที่ 500 มิลลิกรัม ซึ่งเป็นชนิดที่เหมสำหรับป้องกันไข้หวัดที่สุด แต่จะต้องได้รับอนุญาตในการใช้จากแพทย์ก่อนเข้ารับการฉีด ข้อดีของ VitaminC ในรูปแบบนี้ก็คือออกฤทธิ์เร็ว ร่างกายสามารถนำไปใช้ในการบำรุง ซ่อมแซมได้ทันที เพราะไม่ต้องผ่านการย้อยจากกระเพาะอาหาร
ข้อควรระวังในการ ทานวิตามินซี
สิ่งที่ต้องระวังและจำเอาไว้ให้ดีก็คือ วิตามินซี มีจุดอิ่มตัวในการดูดซึม ซึ่งจะขึ้นอยู่กับปริมาณในการทานของแต่ละคน หากทายเกินจุดอิ่มตัวของการดูดซึม ร่งกายก็จะไม่สามารถดูดซึมเพิ่มได้อีก ดังนั้นข้อควรปฏิบัตก็คือควรทายในปริมาณที่ต่ำกว่า 1 กรัม แต่ทายหลายครั้งก็จะช่วยเรื่องของการดูดซึมได้ดีกว่าการทานครั้งเดียว หากทำให้เห็นภาพง่ายๆ เลยก็คือ การทานวิตามินซีครั้งละ 1,000 – 1,500 มิลลิกรัม ร่างกายจะสามารถดูดซึมได้เพียงแค่ 50% เท่านั้น
วิธีทานวิตามินซี ให้ได้ประโยชน์สูงสุด
- ทานพร้อมอาหารในมื้อเช้าและมื้อเย็น วิตามินซีจะถูกขับออกภายใน 2-3 ชั่วโมง ดังนั้นการรักษาระดับวิตามินซีในเลือดให้สูงนั้นจะส่งผลดีต่อสุขภาพ
- ทานปริมาณ 1,000 มิลลิกรับเพื่อบรรเทาอาการหวัด โดยจะต้องทานวันละ 2 เวลา สามารถช่วยลดระดับฮิสตามีน สารที่ทำให้เกิดน้ำมูกลดลงได้ถึง 40%
- ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน ควรทานวันละ 1,000 มิลลิกรัม เพราะวิตามินซีมีคุณสมบัติช่วยลดสารต้านอนุมูลอิสระและการอักเสบของหลอดเลือดได้ จึงมีส่วนช่วยในการป้องกันอาการแทรกซ้อนต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคไตวาย ได้ด้วย
- เพิ่มการทำงานของวิตามินซีให้มากขึ้นด้วยการ ทานร่วมกับแคลเซียมและแม็กนีเซียมและไบโอฟลาโวนอยด์
- อาการที่แสดงว่าได้รับวิตามินซีเกินขาด คือ ท้องเสีย ซึ่งอาจเกิดได้กับคนที่ทานวิตามินซีในปริมาณที่สูงกว่าที่ร่างกายต้องการ ซึ่งเกิดขึ้นในบางคนเท่านั้น
วิตามินซี ถือว่าเป็นสารอาหารอีกตัวหนึ่งที่ร่างกายคนเราต้องการอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันมากขึ้น หรือจะเป็นในเรื่องของการดูแลผิวพรรณ เพื่อที่จะทำให้ร่างกายแข็งแรง พร้อมทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างสดใส ไม่ว่าจะเป็นการทำงานได้ราบรื่นมากขึ้น ออกกำลังกาย เล่นเกม อย่าง สโบเบ็ต หรือเดินทางท่องเที่ยว ก็จะช่วยให้ร่างกายสดชื่น ไม่เจ็บป่วยง่ายขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตามในเรื่องของปริมาณที่พอเหมาะของแต่ละคนนั้นจำเป็นจะต้องปรึกษาแพทย์ก่อนทาย โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพ เพราะจะได้เลือกซื้อปริมาณที่เหมาะสำหรับตัวเอง ไม่เลือกซื้อผิดเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ